คณะรัฐมนตรี ได้รับอนุมัติในหลักการจัดตั้ง
โครงการอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง(อพป.) เมื่อ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๑๗
โดยศูนย์อาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(ศอพป.กอ.รมน.)
ในขณะนั้นเป็นผู้ประสานการดำเนินงาน และได้มีคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๘/๒๕๑๘ ลง ๒๓
มกราคม ๒๕๑๘ กำหนดให้โครงการ อพป. เป็นโครงการระดับชาติ ตามนโยบายการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์โดยวิธีการใหม่และให้ถือเป็นโครงการเร่งด่วนสูงสุดที่ส่วนราชการทุกระดับจะต้องให้ความร่วมมือ
สนับสนุน เพื่อส่งเสริมสร้างความมั่นคงทาง เศรษฐกิจ สังคม การปกครอง
และการรักษาความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในหมู่บ้านต่าง ๆ ในชนบทห่างไกล จนกระทั่งถึงปี
พ.ศ.๒๕๒๙ พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รักษาราชการ ผู้บัญชาการทหารบก
ได้ให้ศูนย์อาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่ง
ของส่วนมวลชนและกิจการพิเศษ สำนักเลขาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน)
จัดทำโครงการ “เพชรในตม” ขึ้นมา โดยได้เล็งเห็นว่าการให้การศึกษาแก่ราษฎร
ในหมู่บ้านที่ห่างไกลเท่านั้น จะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้
จึงได้ประสานความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
เปิดรับสมัครนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ที่มีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง
มีผลการเรียนดี
แต่ครอบครัวมีฐานะยากจนทำการคัดเลือกเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
เป็นรุ่นที่ ๑ ของปีการศึกษา ๒๕๒๙
วันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๒๙ พลเอก
ประเทียบ เทศวิศาล ผู้อำนวยการศูนย์อาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง ในขณะนั้น
ได้นำนิสิตโครงการเพชรในตม รุ่นที่ ๑ จำนวน ๒๙ คน เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก อาทิตย์
กำลังเอก ในฐานะที่ท่านเป็นผู้มีความสนใจและได้ริเริ่มให้มีการจัดทำโครงการฯ
และให้การสนับสนุนโครงการเพชรในตม
จึงได้บริจาคทรัพย์เพื่อใช้ดำเนินการในโครงการเป็นทุนเริ่มแรกจำนวนหนึ่งแสนบาท
ส่วนกิจการพลเรือน ฯ ได้มอบเงินสมทบอีกจำนวนหนึ่ง
และคณะกรรมการโครงการเพชรในตมจึงขออนุญาตจาก พลเอก อาทิตย์ ฯ
จัดตั้งเป็นกองทุนโดยขอใช้ชื่อว่า “กองทุนกำลังเอก(เพชรในตม)”
โดยใช้ดอกผลจากกองทุน ฯ เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน แต่เนื่องจากการดำเนินงานตามโครงการนี้จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายต่าง
ๆ จำนวนมาก กองทุนที่จัดตั้งไว้ไม่เพียงพอ
ท่านจึงมีดำริการรณรงค์จัดหาทุนเพิ่มเติมโดยจัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ
ตามโอกาสอันสมควร และได้มอบให้ คุณชม้อย รัตนสุวรรณ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาและกรรมการ
ดำเนินการ เป็นผู้ประสานงาน ริเริ่มจัดกิจกรรมขึ้นเป็นครั้งแรก
โดยจัดให้มีการแข่งขัน ชกมวยนัดพิเศษ ขึ้น ณ เวทีมวยลุมพินี ในวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน
๒๕๒๙ ได้เงินประมาณล้านบาทเศษ(๑,๑๓๐,๗๕๙.๖๑ บาท) ซึ่งทำให้ดำเนินการไปได้คล่องตัวมากขึ้น
กว่าเดิมจนถึงปัจจุบัน
และ ในวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๒๙ นี้เอง
พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก ซึ่งท่านเป็นผู้มองการณ์ไกล
มีความห่วงใยนิสิต ปัจจุบัน
และนิสิตรุ่นต่อ ๆ ไป ทราบว่านิสิตเหล่านี้พักอาศัยอยู่ตามหอพักของเอกชน
ทำให้เกิดความห่วงใยว่านิสิต
อาจได้รับสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี จนอาจขาดความสนใจ
ต่อการศึกษาประกอบกับผู้ปกครองส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ด้วยความห่วงใย ความเมตตา
และความสามารถที่มองเห็นการณ์ไกลนี้ ทำให้ท่านมอบให้ พลโท จรวย วงศ์สายัณห์
ผู้อำนวยการศูนย์กิจการพลเรือน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในขณะนั้น
ซึ่งเป็นผู้ควบคุม
กำกับดูแลงานของศูนย์อาสาพัฒนาและป้องกันตนเองดำเนินการประสานกับ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
จึงหาพื้นที่ในบริเวณมหาวิทยาลัย ฯ เพื่อสร้างหอพัก ขนาดจุนิสิตได้ ๔ รุ่น รุ่นละ
๓๐ คน รวม ๑๒๐ คน (ปีที่ ๑ -๔) โดยบริจาคเงินส่วนตัวอีก ๕ ล้านบาทเศษ
เป็นค่าจัดสร้างหอพัก หลังจากนั้น ทางมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน
ได้ประสานงานกับเริ่มสร้างได้สำเร็จและได้เชิญท่านไปเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารหอพักนิสิตโครงการเพชรในตม
ในวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๒๙ และนิสิตได้เข้าไปพำนักอยู่ตั้งแต่ วันที่ ๑ มิถุนายน
๒๕๓๐
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น