วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2558

ประวัติ โครงการเพชรในตม

          คณะรัฐมนตรี ได้รับอนุมัติในหลักการจัดตั้ง โครงการอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง(อพป.) เมื่อ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๑๗ โดยศูนย์อาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(ศอพป.กอ.รมน.) ในขณะนั้นเป็นผู้ประสานการดำเนินงาน และได้มีคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๘/๒๕๑๘ ลง ๒๓ มกราคม ๒๕๑๘ กำหนดให้โครงการ อพป. เป็นโครงการระดับชาติ ตามนโยบายการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์โดยวิธีการใหม่และให้ถือเป็นโครงการเร่งด่วนสูงสุดที่ส่วนราชการทุกระดับจะต้องให้ความร่วมมือ สนับสนุน เพื่อส่งเสริมสร้างความมั่นคงทาง เศรษฐกิจ สังคม การปกครอง และการรักษาความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในหมู่บ้านต่าง ๆ ในชนบทห่างไกล จนกระทั่งถึงปี พ.ศ.๒๕๒๙ พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รักษาราชการ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้ศูนย์อาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่ง ของส่วนมวลชนและกิจการพิเศษ สำนักเลขาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน) จัดทำโครงการ “เพชรในตม” ขึ้นมา โดยได้เล็งเห็นว่าการให้การศึกษาแก่ราษฎร ในหมู่บ้านที่ห่างไกลเท่านั้น จะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ จึงได้ประสานความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เปิดรับสมัครนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ที่มีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง มีผลการเรียนดี แต่ครอบครัวมีฐานะยากจนทำการคัดเลือกเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เป็นรุ่นที่ ๑ ของปีการศึกษา ๒๕๒๙



        วันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๒๙ พลเอก ประเทียบ เทศวิศาล ผู้อำนวยการศูนย์อาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง ในขณะนั้น ได้นำนิสิตโครงการเพชรในตม รุ่นที่ ๑ จำนวน ๒๙ คน เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก ในฐานะที่ท่านเป็นผู้มีความสนใจและได้ริเริ่มให้มีการจัดทำโครงการฯ และให้การสนับสนุนโครงการเพชรในตม จึงได้บริจาคทรัพย์เพื่อใช้ดำเนินการในโครงการเป็นทุนเริ่มแรกจำนวนหนึ่งแสนบาท ส่วนกิจการพลเรือน ฯ ได้มอบเงินสมทบอีกจำนวนหนึ่ง และคณะกรรมการโครงการเพชรในตมจึงขออนุญาตจาก พลเอก อาทิตย์ ฯ จัดตั้งเป็นกองทุนโดยขอใช้ชื่อว่า “กองทุนกำลังเอก(เพชรในตม)” โดยใช้ดอกผลจากกองทุน ฯ เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน แต่เนื่องจากการดำเนินงานตามโครงการนี้จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จำนวนมาก กองทุนที่จัดตั้งไว้ไม่เพียงพอ ท่านจึงมีดำริการรณรงค์จัดหาทุนเพิ่มเติมโดยจัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ ตามโอกาสอันสมควร และได้มอบให้ คุณชม้อย รัตนสุวรรณ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาและกรรมการ ดำเนินการ เป็นผู้ประสานงาน ริเริ่มจัดกิจกรรมขึ้นเป็นครั้งแรก โดยจัดให้มีการแข่งขัน ชกมวยนัดพิเศษ ขึ้น ณ เวทีมวยลุมพินี ในวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ ได้เงินประมาณล้านบาทเศษ(๑,๑๓๐,๗๕๙.๖๑ บาท) ซึ่งทำให้ดำเนินการไปได้คล่องตัวมากขึ้น กว่าเดิมจนถึงปัจจุบัน

            และ ในวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๒๙ นี้เอง พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก ซึ่งท่านเป็นผู้มองการณ์ไกล
มีความห่วงใยนิสิต ปัจจุบัน และนิสิตรุ่นต่อ ๆ ไป ทราบว่านิสิตเหล่านี้พักอาศัยอยู่ตามหอพักของเอกชน
ทำให้เกิดความห่วงใยว่านิสิต อาจได้รับสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี จนอาจขาดความสนใจ ต่อการศึกษาประกอบกับผู้ปกครองส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ด้วยความห่วงใย ความเมตตา และความสามารถที่มองเห็นการณ์ไกลนี้ ทำให้ท่านมอบให้ พลโท จรวย วงศ์สายัณห์ ผู้อำนวยการศูนย์กิจการพลเรือน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในขณะนั้น ซึ่งเป็นผู้ควบคุม กำกับดูแลงานของศูนย์อาสาพัฒนาและป้องกันตนเองดำเนินการประสานกับ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จึงหาพื้นที่ในบริเวณมหาวิทยาลัย ฯ เพื่อสร้างหอพัก ขนาดจุนิสิตได้ ๔ รุ่น รุ่นละ ๓๐ คน รวม ๑๒๐ คน (ปีที่ ๑ -๔) โดยบริจาคเงินส่วนตัวอีก ๕ ล้านบาทเศษ เป็นค่าจัดสร้างหอพัก หลังจากนั้น ทางมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ได้ประสานงานกับเริ่มสร้างได้สำเร็จและได้เชิญท่านไปเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารหอพักนิสิตโครงการเพชรในตม ในวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๒๙ และนิสิตได้เข้าไปพำนักอยู่ตั้งแต่ วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๓๐



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น